วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2551

LAN 10/100/1000 ความเร็วหรือปริมาณ

ความเร็วของแสง อยู่ที่ประมาณ 186,000 ไมล์/วินาที ข้อนี้แน่นอนอยู่แล้วสาย 10 mb/100 mb/100 mb ความเร็วเท่ากันหรือไม่ ตำตอบคือ "ความเร็วของข้อมูลในสายสัญญาณเท่ากัน" แต่ "ปริมาณข้อมูลที่ได้ไม่เท่ากัน" ครับคำว่า 10mb 100 mb หรือ 1000 mb นั้น เป็นการแสดงค่า "ปริมาณข้อมูล" สูงสุด ซึ่งในที่นี้หมายถึง 10 mb/sec, 100 mb/sec, 1,000 mb/sec ตามลำดับ ในสายหนึ่งเส้น รับ-ส่งข้อมูลได้ปริมาณข้อมูลไม่เท่ากันได้ยังไง ในเมื่อความเร็วของข้อมูลที่วิ่งอยู่ในสายเท่ากัน???คำตอบของวิธีนี้ก็คือ "ความเร็วอุปกรณ์ รับ-ส่ง" ไงครับเพราะว่าช่องทางรับ-ส่งต่างก็มีกันแค่คนละเลน(หรือทีละบิต) หากแต่เป็นการเพิ่ม "ความเร็ว" ในการ "ปล่อย" หรือ รับ-ส่ง ข้อมูลความเร็วที่ต่างกันนี้ อาศัยความแตกต่างด้านความเร็วของอุปกรณ์ประเภท "สวิทชิ่ง" เป็นหลักครับเปรียบเทียบ ก็คงจะคล้ายกับ "ประตู" มากกว่า ว่าประตูรุ่นไหน แบบไหน เปิด/ปิด ได้เร็วกว่ากันยกตัวอย่างรถกับถนน ก็ขอยกเป็นด่านเก็บเงินทางด่วน ที่มีแค่ "ช่องจ่ายเงินช่องเดียวและถนนเลนเดียว" ก่อนนะครับทำยังไงถึงจะมี "ปริมาณ" รถเข้าด่านเก็บเงินนี้มากๆ หากความเร็วรถบนทางด่วนก็พอๆกัน เร็วบ้างช้าบ้างติดบ้างคำตอบก็คือ "เพิ่มความเร็ว" ตรงด่านเก็บเงินที่หน้าด่าน "ปริมาณรถ/วัน" ก็จะมากขึ้น ทั้งๆที่ความของรถเร็วไม่เปลี่ยนแปลงถ้าหากต้องการปริมาณรถ(ข้อมูล) มากกว่านี้ อาจจะต้องเปลี่ยนจากใช้คนเก็บ(100 mb) ไปเป็นด่านอัตโนมัติ(1,000 mb) หรือใช้วิธีแบบข้างบนก็ได้โดยเพิ่มเพิ่มเป็น 2 ช่อง(ต่อเพิ่มเป็น 2 เส้น/port เป็น 200 mb) ก็จะได้ปริมาณรถ(ข้อมูล) มากขึ้นเหมือนกันครับ แต่เป็นการเพิ่มช่องเก็บเงิน(เพิ่ม port) สามารถเพิ่มปริมาณรถ(ข้อมูล)โดยรวมทั้งหมดได้ แต่ไม่ใช่วิธีเพิ่มปริมาณรถ(ข้อมูล)เฉพาะในช่องเก็บเงิน(เส้น/port)เดิมแต่อย่างใด เป็นคนละกรณีกันครับแต่การที่ IDC สามารถปล่อยได้ถึง 10 กลับถูกตั้งหน่วงเอาไว้ ให้ปล่อยเป็นจังหวะ 2 หรือ 3(หมายถึงว่า ในความเร็วเท่าเดิม อาจจะทุกๆ 10 จังหวะ กลับหน่วงรับ-ส่งข้อมูลไม่กี่จังหวะ เช่น 10 จังหวะ กลับรับ-ส่งแค่ 1 จังหวะ) อันนี้ต้องถามคนปล่อยแล้วครับ ว่าต้องเสียอีกเท่าไหร่ถึงจะยอมปล่อยเพิ่ม....... ความเร็วของสวิทชิ่ง มีผลต่อปริมาณได้ขนาดนี้เชียวหรือ ?ข้อมูลความเร็วเกือบเท่าแสง สวิทชิ่งส่งข้อมูลที ยังไม่ทันทำอะไรก็ถึงปลายทางแล้วครับ ไม่ต้องห่วงว่า ข้อมูลจะ "ติด" ค้างอยู่ในสาย สวิทชิ่งที่เร็วที่สุด ก็คงยังไม่เร็วใกล้แสงครับ ความเร็วห่างกัน.....เป็นร้อยๆเท่าได้มังครับ ความเร็วสวิทยังเพิ่มได้อีกเยอะ โดยไม่ต้องสนใจปริมาณข้อมูลที่วิ่งอยู่ในสาย กว่าสวิทจะรับ-ส่งข้อมูลเร็วขึ้น จากที่วิ่งไปเป็นจังหวะจนติดเต็มพรืดไม่มีเว้นช่อง/จังหวะว่าง ในสายส่งข้อมูล ก็คงอีกนานแหละครับจะเปรียบเทียบเป็นอีกแบบก็ได้ครับ ชัดเจนสุดๆ...เปรียบเหมือนเลือดที่สูบฉีดไปทั่วร่างมากขึ้น ไม่ได้เป็นเพราะเรามีเส้นเลือดเพิ่มขึ้น หากแต่เป็นเพราะหัวใจเราเต้นเร็วขึ้น ในยามที่เสื้อผ้าเธอน้อยชิ้นลง

เพิ่มเติมให้อีกนิดนะครับ.....
สรุปก็คือ การรับ-ส่ง ข้อมูลขนาดหนึ่งๆใช้ความเร็วในสายสัญญาณ เท่าๆกัน แต่เวลาที่ใช้รับ-ส่งข้อมูล "อาจจะ" ไม่เท่ากันเช่นตัวอย่างแบบเลขคณิตคิดง่ายๆ ครับข้อมูล 10,000 mb ส่งข้อมูลในสายด้วยความเร็วใกล้ความเร็วแสงพอๆกัน แต่ hub 10 mb/sec = 10000/10 = 1000 sec.hub 1000 mb/sec = 10000/1000 = 10 sec.ก็เพราะ ความเร็วของสวิทช์ไม่เท่ากัน ลองกอปปีข้อมูลทั้งฮาร์ดดิสก์ผ่านแลนเพื่อทดสอบ แล้วคุณจะเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนแต่......เดี๋ยวก่อนที่มี "อาจจะ" ก็เพราะว่าความเร็วของสวิทช์ ไม่ใช่ตัวแปรแต่เพียงอย่างเดียวหาก IDC ให้มามีปริมาณต่ำๆ(เช่น ข้อมูลขนาด 3 mb/sec ในสาย 100 หรือ 1000 mb/sec) ปริมาณข้อมูลที่น้อยหรือน้อยมาก เวลาที่ได้ก็จะใกล้กันมาก จนเกือบจะเท่ากัน และเมื่อรวมตัวแปรอื่นๆ และ Spec อื่นๆ เช่น ความเร็ว-ช้า, Buffer, Response Time, Relay Time, ของฮับแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ อุปกรณ์อื่นๆ เช่น คอมพ์ที่ใช้ ความเร็ว การ์ดแลนที่ใช้ เข้าไปด้วยล่ะก็ .....ก็คงไม่ต้องสนใจไปวัดหรือไปทำอะไรหรอกครับ

ไม่มีความคิดเห็น: