วันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ภาระ หน้าที่ ความอดทน

งานแสนหนัก....



ทางไกลแสนไกล...ใครต่อใคร..ทะยอยกันแซงหน้าไป




เหนื่อยเหลือเกิน...กับภาระบนบ่า มีทางไหนที่จะลดภาระลงได้บ้างหรือไม่



ตัดสินใจ...ลดภาระที่แบกอยู่



เบา...สบายกว่าเดิม



อะดีขึ้น เอาออกอีกหน่อยดีกว่า



ขึ้นมาอยู่แถวหน้า...แซงคนอื่นมาแล้ว (เหอๆๆทนแบกกันต่อไปไม่ฉลาดเหมือนเรา ไปต่อดีกว่า)



อะไรกันนี้
ทางขาด...ทำอย่างไรดีนี้!



เมื่อคนที่แบกภาระเต็มบ่าเดินทางมาถึง
จึงได้รู้ว่า

ภาระที่แบกมานั้นล่ะ คือสะพานที่จะเอาไว้ใช้ข้ามผ่าน



จึงรีบนำของตนเองออกมาเพื่อที่จะได้ใช้ข้ามบ้าง
แต่..ทำไม! จึงไปไม่ถึง



เป็นเพราะอะไร เป็นเพราะใคร
เป็นเพราะ...ตัวเอง...ขาดความเพียร
ขาดความมานะ...ความพยายาม ขาดความมุ่งมั่น
ขาดความตั้งใจ



########################################

ดังนั้น เราควรทำงานที่รับผิดชอบในปัจจุบันให้ดีที่สุด
อย่าคิดลดงานลง เพราะความเห็นแก่ความสบาย
เพราะ...งานคือสะพานสู่ความสำเร็จในภายหน้าของเราเอง







วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

History of Valentine's Day

History of Valentine's Day



วันวาเลนไทน์มาจากชื่อของนักบุญวาเลนไทน์ (St.Valentine) ผู้ซึ่งมีชีวิตอยู่ในสมัยกษัตริย์ Claudiusที่ 2 แห่งกรุงโรม ในสมัยนั้นกษัตริย์ Claudius ออกกฎ ห้ามให้มีการแต่งงานในเมืองของ พระองค์ เพราะกษัตริย์ ทรงต้องการทำศึกสงคราม ทรงต้องการให้ผู้ชายทุกคนไปเป็นทหาร พระองค์เชื่อว่าถ้าไม่มีการแต่งงานผู้ชาย จะสนใจกับการรบมากขึ้น

นักบุญวาเลนไทน์ขัดบทบัญญัติแห่งกฎหมายของกษัตริย์ ด้วยการเป็นบาทหลวงในพิธีแต่งงานให้หนุ่มสาว ที่ต้องการแต่งงานอย่างลับ ๆ ... และแล้ววันหนึ่งข่าวการทำ พิธีสมรสของนักบุญวาเลนไทน์ก็รู้ถึงหูของพระเจ้า Claudius พระองค์จึงทรงสั่งทหารไปจับเขาไปประหารชีวิต... ระหว่างอยู่ในคุกมีคู่แต่งงานที่ท่านเคยทำพิธีให้หลายคู่ลอบไปเยี่ยมเยียนท่านอย่างสม่ำเสมอ และที่นั่นท่านยังได้รู้จักกับหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็น ลูกสาวของผู้คุมเธอมักมาพูดคุยกับท่าน.... และบอกท่านเสมอ ๆ ว่า การกระทำของท่านถูกต้องแล้ว

นักบุญวาเลนไทน์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ในปี 296 A.D. ในคุกแห่งนั้นเอง ก่อนตายท่านได้ฝากโน๊ตสั้น ๆ ถึงเพื่อนของท่านและลงท้ายว่า "Love from your Valentine" ...

ในปี 496 A.D. โป๊ป Gelasius ได้ยกย่องให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันวาเลนไทน์ เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้รำลึกถึงคุณความดี ความกล้าหาญ และความเสียสละของนักบุญวาเลนไทน์... เราจึงมักถือเอาวันนี้เป็นวันแห่งความรัก ในระยะต่อมาวันวาเลนไทน์ ใช้แทนความรักของหนุ่มสาวเป็นส่วนใหญ่ โดยในวันนี้จะมีการส่งขนม (โดยเฉพาะช็อคโกแลต) ดอกไม้ (ส่วนใหญ่จะดอกกุหลาบ) ให้กับคนที่รัก

<-------------------------------------------------------------------------------->



ดอกไม้และความหมายของความรัก




มนุษย์ได้ใช้ดอกไม้เป็นสื่อในการแสดงความรักต่อกันมานานแล้ว เราอาจจะคิดว่า ดอกไม้เป็นสิ่งที่สามารถใช้สื่อความหมายเฉพาะความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น แต่แท้จริงแล้ว ดอกไม้แต่ละชนิด สามารถสื่อความรักได้หลายรูปแบบ ทั้งยังไม่จำกัดอายุและเพศอีกด้วย



- กุหลาบแดง (red rose) : ส่วนใหญ่จะใช้ในความหมายแทน
ประโยคที่ว่า ”ฉันรักเธอ” การให้ดอกกุหลาบแดงกับคนที่รัก มีความ
หมายถึง ความรักอันลึกซึ้ง จริงจัง กุหลาบแดงจึงมักจะเป็นดอกไม้
ที่ชายหนุ่มให้หญิงสาวที่ตนเองตั้งใจจะใช้ชีวิตร่วมกัน

- กุหลาบขาว (white rose) : สีขาวเป็นสีแห่งความบริสุทธ์
กุหลาบขาว จึงแทนความหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์ใจ ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ดังนั้น มันจึงสามารถใช้แทนความรักของคนต่างวัย
ความรักต่อพ่อแม่ เพื่อน หรือคนที่เรารู้สึกดีด้วยอย่างบริสุทธิ์ใจได้


- กุหลาบชมพู (pink rose) : มักถูกใช้แทนความรักแบบโรแมนติก
และความเสน่หาต่อกัน การให้ดอกกุหลาบสีชมพู สามารถแสดงถึงความรัก ที่กำลังเริ่มงอกงามในใจ และสามารถพัฒนาต่อไปเป็นความรักที่ลึกซึ้งได้


- กุหลาบเหลือง (yellow rose) : สีเหลืองเป็นสีแห่งความสดใส
กุหลาบสีเหลือง ถูกใช้สำหรับแทนความรักแบบเพื่อน และความ
สนุกสนานรื่นเริง จึงมักจะนำมันมาประดับตะกร้าสำหรับเยี่ยมผู้ป่วย
เพื่อทำให้คนป่วยรู้สึกสดชื่นรื่นเริงขึ้นนั่นเอง


สำหรับดอกไม้อื่น ๆ ที่ถูกมาใช้แทนความหมายแห่งความรักก็มี ดอก ทิวลิปสีแดง (red tulip) ชาวตะวันตกใช้มันแทนการประกาศความรักอย่างเปิดเผย คล้าย ๆ กับดอกกุหลาบแดง ส่วนดอกคาร์เนชั่นสีชมพู (pink carnation) ใช้สื่อความหมายว่า “ถึงอย่างไรผมก็ยังรักคุณ” หรือ “คุณยังอยู่ในหัวใจฉันเสมอ”

- ดอกลิลลี่สีขาว (white lilly) แสดงความรักแบบบริสุทธ์ เช่นเดียวกันกับ ดอกกุหลาบขาว นอกจากนั้นลิลลี่สีขาว ยังแสดงถึงความรักแบบอ่อนหวาน จริงใจ และเทอดทูน และมักถูกใช้แทนประโยคที่ว่า “ฉันรู้สึกดี ๆ ที่ได้ได้รู้จัก และอยู่ใกล้คุณ “ สำหรับดอก forget-me–not มีความหมายตรงตัว คือ ได้โปรดอย่าลืมฉัน และอย่าลืมความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีให้กัน

มาถึงดอกไม้ที่เห็นได้ทั่วไปในบ้านเราบ้าง ดอกทานตะวัน(sunflower) มีความหมายถึงความรักแบบคลั่งไคล้ ความรักแบบบูชา แต่สำหรับชาวตะวันตก ดอกทานตะวันจะหมายถึงความเข้มแข็งอดทน จึงสามารถใช้แทนความรัก ที่ต้องฝ่าฟันกว่าจะได้ความรักมา



จะเห็นได้ว่าดอกไม้เป็นประดิษฐกรรมทางธรรมชาติที่มนุษย์เรานำมาใช้เป็นสื่อแทนความหมาย แห่งความรักได้หลายรูปแบบ การมอบดอกไม้ให้กับคนที่เรามีความรู้สึกพิเศษจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควร มองข้าม... ในวัน Valentine's นี้คุณมีดอกไม้ในใจ ที่จะให้คนที่คุณรักแล้วหรือยัง ??



<-------------------------------------------------------------------------------->

ช๊อกโกแลต กับ วาเลนไทน์





ช็อคโกแลตหนึ่งในสัญลักษณ์ของวันวาเลนไทน์....หนึ่งในขนมหวานราคาแพงรสอมตะที่ทุกคนอยากลิ้มลอง...หนึ่งในประติกรรมด้านศิลปทางอาหารชิ้นเอกของโลก....และเป็นหนึ่งในคำตอบของเด็กๆทุกคนทั่วโลกเมื่อเลือกซื้อขนม.....วันนี้ลองมารู้จักกับประวัติความเป็นมาช็อคโกแลตและมาดูกันซิว่าช็อคโกแลตมาเกี่ยวพันกับวันวาเลนไทน์ได้อย่างไร......

ช็อกโกเลตพบเป็นครั้งแรกเมื่อ 4,000 กว่าปีมาแล้วในอาณาจักร Aztec และ Maya โดยเป็นเครื่องดื่มที่ผสมขึ้นมาจากเมล็ดของต้นโกโก้ และเรียกชื่อว่า Cocoatl ซึ่ง Emperor Montezuma นิยามว่าเป็นเครื่องดื่มที่ประทานลงมาจากสรวงสวรรค์เลยทีเดียว ในปี 1528 ซึ่งเป็นปีที่สเปนมีชัยชนะต่ออาณาจักร Aztec และ Maya จึงได้นำ Cocoatl กลับไปยังสเปนด้วยและตั้งชื่อให้ใหม่ว่า cho-co-Lah-tay และในปี 1615 ช็อคโกแลตก็ได้เผยโฉมต่อสังคมของอายรธรรมใหม่เป็นครั้งแรกในงานสมรสของเชื้อพระวงศ์แห่งฝรั่งเศสและจากนั้นก็จึงแพร่หลายเข้าสู่ประเทศอังกฤษ ในเวลาต่อมา ราวๆปี 1765 ช็อคโกแลตก็ได้ไปสู่ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยนาย John Hanan ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก Dr. James Baker ในด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไม่นานโรงงานผลิตช็อคโกแลตแห่งแรกของโลกก็ได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ประเทศอเมริกานั่นเอง ช่วงแรกๆ นั้นผู้ที่จะได้ลิ้มรสช็อคโกแลตจะเป็นเพียงผู้สูงศักดิ์หรือระดับเศรษฐีเท่านั้นเพราะว่าราคาแพงที่แสนแพงและถือเป็นของหายากชนิดหนึ่ง จนกระทั่งมีการปฏิวัติในฝรั่งเศสทำให้ระบบศักดินาล่มสลายลง ทำให้ช็อคโกแลตสามารถเข้าถึงประชาชนทั่วไปมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อวิทยาศาสตร์การแพทย์ค้นพบว่า ช็อคโกแลตสามารถรักษาอาการเกี่ยวกับช่องท้องได้ ทำให้ยิ่งเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ในช่วงแรกนั้นช็อคโกแลตยังไม่ได้มีส่วนประกอบมากมายอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน ยังคงเป็นเพียงแท่งโกโก้สีดำๆเท่านั้น จนมาภายหลังเมื่อมีการพัฒนามากขึ้นก็สามารถบรรจุส่วนผสมต่างๆ ลงไปได้มากขึ้น เช่น นมผง ครีม คาราเมล หรือ อัลมอนด์ ทำให้ช็อคโกแลตมีรสชาติที่หลากหลายและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน


จากตำนานของช็อคโกแลตที่นาวนานหลายพันปีนั้น ยังไม่พบรายงานใดที่บอกได้ว่าเหตุใดช็อกโกแลตถึงมาเกี่ยวข้องกับวันวาเลนไทน์ซึ่งเป็นวันสิ้นชีวิตของ St. Valentine ผู้ที่ศรัทธาในความรักมากกว่าสงครามเลย เพราะก่อนที่ท่านจะสิ้นลมหายใจ ท่านก็ได้มอบเพียง การ์ดใบเดียวพร้อมคำว่า "Love From Your Valentine" เท่านั้นเอง โดยที่ไม่มีช็อคโกแลตแนบไปให้คนรักด้วยแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ก็อาจจะเป็นได้ว่า เนื่องจากในยุคโรมันที่นักบุญวาเลนไทน์ได้เสียชีวิตนั้น ช็อคโกแลตยังเป็นของหายากจึงเป็นสิ่งที่มีค่าที่คนรักจะมอบแทนใจให้กันได้ จึงส่งไปพร้อมการ์ดและดอกไม้ ซึ่งสื่อความหมายของความรักมาแต่ไหนแต่ไรแล้วก็ได้ แล้วก็มอบกันไปมอบกันมาต่อเนื่องยาวนานจนกลายเป็นสัญญลักษณ์อย่างหนึ่งไป และอาจจะรวมไปถึงการที่ช็อคโกแลตเคยได้รับเกียรติเป็นสัญลักษณ์ของ เสรีภาพ มิตรภาพ และสันติภาพ ในช่วงที่ สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงด้วยก็ได้


วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

“ไวด์ แอคเซ็ส” บริการใหม่เน็ตไร้สายไม่ต้องมีเบอร์บ้าน.


เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็ต้องยกให้อินเตอร์เน็ตกันทั้งนั้น เสมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนในยุคนี้เลยเชียว แถมเน็ตเดี๋ยวนี้ก็พัฒนาประสิทธิภาพขึ้นมาเลยๆ เพื่อสนองความต้องการของลูกค้าอย่างเราๆ ชาวไซเบอร์ จนตอนนี้เราสามารถใช้เน็ตไร้สายแบบไม่ต้องมีเบอร์บ้านกันได้แล้ว.

“ไวด์ แอคเซ็ส” น้องใหม่ให้บริการเชื่อมต่อบรอดแบนด์ สบช่องเจาะพื้นที่กรุงเทพฯ เหตุยังมีพื้นที่อินเตอร์เน็ตยังเข้า ไม่ถึงอีกมาก ระบุคนไทยเข้าถึงบรอดแบนด์ เพียง 2%

นายสันติ เมธาวิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไวด์ แอคเซ็ส จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน ยังมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) ประมาณ 2% ของประชากร ตลาดจึง ยังมีโอกาส เติบโตอีก มาก แม้แต่พื้นที่ในเขต กรุงเทพฯ ก็ยังมีหลายจุดที่อินเตอร์เน็ตเข้าไม่ถึง เนื่องจากไม่มีเลขหมายโทรศัพท์ และสายโทรศัพท์เข้าไม่ถึง ดังนั้นบริษัทจึงให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแบบไร้ สายผ่านเทคโนโลยี “ไวร์เลส เมส” (Wireless Mesh) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อยอดมาจากระบบไว-ไฟ โดยนำชิปใส่ไว้ใน “ไวด์ มินิ” (wide mini) เพื่อรับคำสั่ง โดยมีจุดเด่นที่สามารถกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงได้ครอบ คลุมบริเวณบ้าน และครอบคลุม 150 เมตร สำหรับนอกอาคาร

กลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัท คือ โรงเรียน มหาวิทยาลัย คอนโดมิเนียม หมู่บ้านจัดสรร และอินเตอร์เน็ตไร้สายในชุมชนเมือง แม้บางพื้นที่จะใช้อินเตอร์เน็ตได้ แต่แนวโน้มการใช้งานอินเตอร์เน็ตของคนรุ่นใหม่เป็นแบบไร้สายมากขึ้น และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น 100% ในอีก 3 ปี เนื่องจากอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งานทั้งโน้ตบุ๊ก และโทรศัพท์มือถือ มีราคาถูก ขณะนี้ได้เริ่มติดตั้งไวด์ มินิให้กับคอนโดมิเนียมบางแห่ง

สำหรับช่องทางจัดจำหน่ายจะเน้นวางจำหน่ายผ่านอี-ช็อป หรือซื้อ-ขายผ่านเว็บไซต์ www.wide.me โดยค่าบริการบรอดแบนด์รายเดือนเท่ากับค่ายอื่นๆ 590 บาท ความเร็วในการรับ-ส่ง ข้อมูล 2 Mbps/วินาที มีจุดเด่นที่ลงทะเบียนเพื่อขอใช้บริการได้โดยไม่ต้องทำสัญญา และไม่ต้องมีเบอร์โทรศัพท์บ้าน.